ทุกวันที่ 4 กรกฎาคมของทุกปี สหรัฐอเมริกาจะเต็มไปด้วยเสียงดอกไม้ไฟ การเฉลิมฉลอง และธงชาติที่โบกสะบัดไปทั่วประเทศ แต่นอกเหนือจากภาพความสนุกสนานเหล่านี้ วันที่ 4 กรกฎาคมของทุกปี ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ยังมีอีกหนึ่งความสำคัญทางประวัติศาสตร์และความหมายอย่างลึกซึ้งที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณของประชาชนชาวอเมริกันอีกด้วย

ประวัติความเป็นมา

เริ่มต้นจากปี ค.ศ. 1776 วันที่ 4 กรกฎาคม หรือวันที่ สภาคองเกรสแห่งทวีปอเมริกา (Continental Congress) ได้ประกาศรับรองเอกสารที่ชื่อว่า Declaration of Independence หรือ “คำประกาศอิสรภาพ” ซึ่งเป็นเอกสารที่ประกาศว่า

“สหรัฐอเมริกาจะไม่อยู่ภายใต้การปกครองของ สหราชอาณาจักร อีกต่อไป”

เอกสารฉบับนี้เขียนขึ้นโดย โธมัส เจฟเฟอร์สัน (Thomas Jefferson) และลงนามโดยผู้แทนจากทั้ง 13 อาณานิคม ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของประเทศใหม่ที่มีอิสรภาพและเสรีภาพเป็นหัวใจหลัก

แม้ว่าจะเป็นวันหยุดประจำชาติ แต่ชาวอเมริกันก็ให้ความสำคัญกับวันนี้มาก ๆ ลุกขึ้นมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาล 4th of July ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมที่สะท้อนความภาคภูมิใจของชาติ และเพื่อระลึกประวัติศาสตร์ความเป็นมาตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน

“4th of July” จึงกลายเป็นอีกวันที่เต็มไปด้วยสีสันและเสียงหัวเราะ! และยังมีกิจกรรมมากมายให้ร่วมสนุก ไม่ว่าจะเป็นขบวนพาเหรดสุดอลังการ การปิกนิกในสวนกับครอบครัว เกมสนุก ๆ ตามงานเทศกาลที่ทุกคนรอคอย!

• การแสดงดอกไม้ไฟ: เป็นหนึ่งในไฮไลต์ในย่ามค่ำคืน ที่ถูกจุดในเมืองทั้งใหญ่และเล็กทั่วประเทศ
• ขบวนพาเหรด: เมืองต่าง ๆ จัดขบวนพาเหรดที่เต็มไปด้วยวงโยธวาทิต รถแห่ และผู้คนในชุดประวัติศาสตร์
• บาร์บีคิวและปาร์ตี้กลางแจ้ง: ครอบครัวและเพื่อนฝูงมักรวมตัวกันกินอาหาร ปิ้งบาร์บีคิว และเล่นเกม
• เพลงปลุกใจและธงชาติ: เพลงชาติอย่าง The Star-Spangled Banner ดังขึ้นบ่อยครั้ง และผู้คนจะประดับบ้านด้วยธงชาติอเมริกัน

4th of July ไม่ใช่แค่วันหยุดธรรมดา แต่คือวันแห่ง จิตวิญญาณเสรีภาพ ที่ประชาชนอเมริกันได้ต่อสู้เพื่อให้ได้มา มันเป็นวันที่สะท้อนถึงคุณค่าของการมีสิทธิในการปกครองตนเอง ความเท่าเทียม และเสรีภาพในการแสดงออก

และสำหรับใครอยากเป็นส่วนหนึ่งในงานสำคัญสุดแสนยิ่งใหญ่ ได้ไปสัมผัสบรรยากาศสนุกสนานของการเฉลิมฉลองวันชาติที่ประเทศ สหรัฐอเมริกา ห้ามพลาด สมัครไป Work and Travel กับ Acadex สอบถามข้อมูลรายละเอียดไปเวิร์คที่ อเมริกา ได้เลย !