
(ที่มา : https://travel.trueid.net)
1. พระราชวังอิโอลานี ( Iolani Palace )
พระราชวังอิโอลานี (อังกฤษ: ʻIolani Palace) อยู่ในเขตศูนย์กลางธุรกิจของเมืองโฮโนลูลู รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา เป็นพระราชวังเพียงแห่งเดียวในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นที่พักอย่างเป็นทางการในช่วงการปกครองของพระมหากษัตริย์ สองผู้ปกครองของพระราชวังอิโอลานิ คือ พระราชา Kalākaua และพระราชินี Liliuokalani แห่งฮาวาย ซึ่งถูกล้มล้างจากอำนาจใน ค.ศ. 1893 และอาคารหลังนี้ถูกใช้เป็นศูนย์กลางการบริหารสำหรับรัฐบาลเฉพาะกาลของสาธารณรัฐฮาวาย จนกระทั่ง ค.ศ. 1969 อาคารหลังนี้ได้รับการบูรณะ และเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์แก่สาธารณชนเมื่อ ค.ศ. 1978
2. ทุ่งดอก Bluebells
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เมืองวิลโลว์ เมืองเล็กๆ ในรัฐเท็กซัสแห่งนี้ กลับกลายเป็นเมืองที่มีวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติที่สวยงามมากๆ อากาศเย็นสบาย โดยเฉพาะทุ่งดอกบลูเบลที่สวยงามมากๆ ทำให้ที่นี่เป็นอีกที่หนึ่งที่น่ามาเที่ยวมากๆ เลยทีเดียวสำหรับคนที่ชอบความสวยงามของดอกไม้ใบไม้ ธรรมชาติ และอากาศดีๆ
3. อุโมงค์น้ำแข็ง Mendenhall Ice Caves
อุโมงค์น้ำแข็งอลาสก้า ยาวกว่า 19 กิโลเมตรนี้ ตั้งอยู่ที่หุบเขา Mendenhall ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมือง Juneau รัฐอลาสก้า ประเทศสหรัฐอเมริกาออกไป ก้อนน้ำแข็งน้อยใหญ่จำนวนมหึมาแขวนตัวลอยอยู่ในอากาศ น้ำแข็งบางส่วนที่ละลายสร้างธารน้ำไหลลอดลงสู่โตรกหินด้านล่าง เป็นความอลังการจากธรรมชาติจริงๆ
4. ทะเลสาบ Crater Lake
ทะเลสาบ Crater Lake ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยอันดับต้นๆ ของโลกทีเดียว ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติ Crater Lake ของรัฐออริกอน ลักษณะพิเศษคือเป็นทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟที่ลึกที่สุดในอเมริกาถึง 1,943 ฟุต รอบล้อมทะเลสาบมีป่าสนสวยงาม เหมาะกับการมาเที่ยวพักผ่อนสูดอากาศดีๆ
5. ถนน Big Sur เลียบทะเล
ถนนเลียบชายทะเล ที่มีหน้าผาขรุขระถูกซัดด้วยเกลียวคลื่น ทำให้ถนนไฮย์เวย์รอบชายฝั่งแปซิฟิกตามเส้นทางบิกเซอร์นั้นก่อเกิดทัศนียภาพอันแสนน่าประทับใจของรัฐแคลิฟอร์เนียระหว่างเมืองคาร์เมล และตอนเหนือของ San Luis Obispo Count Jack Kerouac และ Henry Miller พบแรงบันดาลใจในหุบเขาหมอกและทุ่งหญ้าของสถานที่แห่งนี้ ปลาวาฬสีเทาอพยพมาปีละสองครั้ง และแมวน้ำช้างต่างขึ้นมาเกยตื้นอาบแดดบนชายฝั่งทรายแห่งนี้ ตลอดทั้งเส้นทางจะมีชายหาดให้แวะพักนั่งเล่น มีวิวสวยๆ ให้ได้ขับรถชมวิวกินลม บอกเลยว่า โรแมนติกมาก