fbpx
Blogs
reviews / blogs
Blogs
Blogs
ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง!! สำหรับโครงการ Work and Travel USA
เอกสารสำหรับโครงการ Work and Travel จะแบ่งเป็น 3 ชุด 1. เอกสารเพื่อสมัครเข้าร่วมโครงการ2. เอกสารองค์กรแลกแปลี่ยน (US Sponsor)3. เอกสารสำหรับเข้าสัมภาษณ์วีซ่า อัพโหลดตามเข้ามาหลังจากชำระค่าสมัครเรียบร้อยแล้ว รูปถ่ายวีซ่าอเมริกา 2×2 นิ้ว (พื้นหลังขาว) สำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) สำเนาบัตรประชาชน (National ID) สำเนาบัตรนักศึกษา (Student ID) ใบเกรด ภาษาอังกฤษ (Transcrip) ใบรับรองนักศึกษา ภาษาอังกฤษ (Proof of Student Status) Resume ภาษาอังกฤษ อัพโหลดผ่านระบบ https://document.acadexthailand.com/ *แบบฟอร์มเอกสารอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแต่ละองค์กรแลกเปลี่ยน* เอกสารตรวจสุขภาพ  เอกสารรับรองจากทางมหาลัย  Budget work sheet และอื่นๆ เอกสารในขั้นตอนนี้ พี่ทีมงานจะคอยแจ้งให้ดำเนินการของแต่ละคนอีกครั้งเมื่อถึงขั้นตอนดำเนินการแล้วค่ะ หนังสือเดินทาง (Passport) ใบรับรองนักศึกษา (Proof of Student Status) […]
อ่านต่อ
Blogs
ทำความรู้จักกับ Work and Travel
Work and Travel คืออะไร ✈️ Work and Travel คือโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม (Culture Exchange) ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เปิดโอกาสให้ นิสิต นักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยได้ทำงานในหลากหลายองค์กรและมีโอกาสท่องเที่ยวเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ซึ่งนิสิต นักศึกษาจะได้รับวีซ่าประเภท J-1 ซึ่งเป็นวีซ่าสำหรับเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ โดยให้สิทธิทางกฎหมายในการทำงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นระยะเวลาสูงสุด 4 เดือน และหลังจากจบงานสามารถท่องเที่ยวในประเทศสหรัฐอเมริกาได้อีกสูงสุด 30 วัน ทำไมถึงต้องไป Work and Travel! ✨ ออกจาก comfort zone – ท้าทายตัวเองด้วยการทำงานในสหรัฐอเมริกาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย สร้างประสบการณ์ในช่วงปิดเทอม 🌍 ออกไปเจอโลกกว้าง– สำรวจสถานที่ดังอย่างนิวยอร์ก แคลิฟอร์เนีย และฟลอริด้า ดื่มด่ำกับความงดงามและความหลากหลายของสหรัฐอเมริกา 🌐 แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม สร้างมิตรภาพใหม่ๆ – พบเพื่อนใหม่จากไทยและต่างชาติ พบปะกับผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก สร้างความสัมพันธ์ที่อาจอยู่กับเราไปตลอดชีวิต! 🎓 ออกไปฝึกภาษาในดินแดนเจ้าของภาษา – พัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษในสถานที่จริง ไปเวิร์ค ได้อะไรมากกว่าที่คิด […]
อ่านต่อ
Blogs
US Sponsor Policy 2022 มีอะไรบ้าง ไปดู!
by Acadex Thailand ข้อมูล ณ วันที่ 13 มกราคม 65 สำหรับน้องๆที่เข้าร่วมโครงการ Work&Travel ปี 2022 ทุกคน อย่างที่น้องๆหลายคนอาจจะทราบกันดีอยู่แล้วนะคะ ว่าขั้นตอนต่างๆของแต่ละงานหรือแต่ละองค์กรแลกเปลี่ยน จะมีความแตกต่างกัน วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องที่น้องๆหลายคนคงอยากรู้นั่นก็คือเงื่อนไข และ ข้อมูลการเดินทางเข้า-ออก ประเทศอเมริกา ของแต่ละองค์กรแลกเปลี่ยนโดยน้องๆสามารถเช็คข้อมูลขององค์กรตัวเองได้ตามด้านล่างนี้เลยน้า จะได้ไม่พลาดทุกการวางแผนการเดินทางจ้า หากน้องๆมีข้อสงสัย สามารถสอบถามพี่ทีมงานได้ที่ Line : @acadex หรือโทรสอบถามได้ที่เบอร์  086-390-0333 นะคะ
อ่านต่อ
Blogs
2 สิ่งที่ต้องมี ถ้าไม่อยากตกงาน!
นับเป็นช่วงที่ท้าทายที่สุดสำหรับน้องๆที่กำลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย เพราะอีกไม่นานก็จะต้องก้าวสู่ความเป็นจริงของตลาดแรงงานที่มีตำแหน่งงานน้อยกว่าคนสมัคร ดังนั้นเราจะไปดูกันว่าอะไรคือจุดตัดของการได้งาน(หรือตกงาน) ของบัณฑิตจบใหม่ 1.ภาษาภาษาอังกฤษอยู่ในหลักสูตรการศึกษาภาคบังคับของเรา แต่จากการจัดอันดับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของเด็กไทยของสถาบันต่างๆก็มีผลออกมาว่าอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยระดับต่ำ เนื่องจากการเรียนภาษาอังกฤษของเราส่วนใหญ่ ขาดภาคปฏิบัติและการใช้งานจริง เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว เราควรหาโอกาสในการใช้ภาษาอังกฤษ นอกจากการดู Netflix ฟังเพลงฝรั่ง เพื่อเปลี่ยนจากจุดอ่อนให้กลายเป็นจุดแข็งให้ได้ ทีนี้ให้ลองสมมติว่าเราเป็นเจ้าของบริษัท ซึ่งกำลังจะรับพนักงานเข้ามาใหม่ โดยมีผู้สมัครเข้ามา 2 คน คนแรก… ไม่มีประสบการณ์ ภาษาไม่ค่อยได้คนที่สอง… เคยไปฝึกงานที่อเมริกา ภาษาพูดได้คล่อง—คำตอบคงชัดอยู่ในใจทุกคนอยู่แล้ว— 2.ประสบการณ์สิ่งที่จะทำให้ใบสมัครงานของเราโดดเด่นออกมาคงหนีไม่พ้นประสบการณ์ของเรานั่นเอง เพราะอย่าลืมว่าเราไม่ได้แข่งกับคนที่จบใหม่เพียงอย่างเดียว แต่เรากำลังแข่งขันกับคนจำนวนมากเคยทำงานมาแล้วแต่ตกงานจากสภาวะโควิทที่ผ่านมา จากการสัมภาษณ์อดีต HR บริษัทชั้นนำอย่าง American Express คุณปิยะพง สุนทรปิยะ ได้ให้ข้อมูลว่า “ประสบการณ์ถือเป็นจุดตัดสินที่สำคัญลำดับต้นๆ น้องๆบางคนที่จบใหม่ แต่เคยไปฝึกงาน โดยเฉพาะหากเคยไป Work & Travel ก็จะได้เปรียบคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์อะไรเลย” วิธีที่จะเพิ่มพูน 2 สิ่งที่กล่าวมา คือการเข้าร่วมโครงการ Work & Travel เพราะจะทำให้ได้ประสบการณ์ และได้ฝึกภาษาในระยะเวลาที่ไม่กระทบกับการเรียนภาคปกติ หากน้องๆคนไหนสนใจ สามารถติดต่อพี่ๆ Acadex […]
อ่านต่อ
Blogs
วิเคราะห์ 3 ความเสี่ยง ไป Work&Travel ปีหน้า
ในสภาวะที่ทุกคนกำลังกลัวกับความเสี่ยง มีคนจำนวนไม่น้อยที่กำลังวางแผนและสมัครเข้าร่วมโครงการ Work & Travel เพื่อไปเข้าร่วมโครงการในช่วงปิดเทอมปี 2021 ซึ่งหลายคนมักตั้งคำถามว่า ไปอเมริกาปีหน้า จะเสี่ยงมั้ย? ในวันนี้เราจะมาประเมินความเสี่ยงทางด้านต่างๆกัน ความเสี่ยงด้านโครงการโครงการ Work & Travel ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งมีการดำเนินการมาแล้วกว่า 20 ปี โดยล่าสุดทางองค์กรแลกเปลี่ยนก็ได้มีการเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการผ่านเอเจนซี่อย่างเป็นทางการแล้ว อีกทั้งสถานกงสุลสหรัฐทั่วโลกรวมทั้งประจำประเทศไทย ก็ได้มีการกลับมาเปิดให้บริการออกวีซ่าแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา หากดูจากสถิติการผ่านวีซ่าจะพบว่ายังอยู่ในอัตราที่สูงมากๆ แม้ว่าผู้สมัครจะกำลังศึกษาอยู่ในปีสุดท้ายก็ตาม อีกทั้งนโยบายด้านการต่างประเทศของพรรคเดโมแครตภายใต้ประธานาธิบดี Biden ก็ยิ่งดูจะทำให้ผู้สมัครที่มีคุณสมบัติครบนั้น ผ่านวีซ่าได้อย่างไม่ยาก ดังนั้นเราจึงจัดอันดับความเสียงนี้ในระดับต่ำมาก ความเสี่ยงด้านอันตรายจากโควิทสำหรับผู้ที่อายุน้อยข้อมูลของหน่วยงานควบคุมโรคติดต่อ CDC สหรัฐ ระบุว่าล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า จำนวนผู้เสียชีวิตของผู้ที่ติดเชื้อ Covid ในช่วงอายุ 0-29 ปีนั้น คิดเป็น 0.04% จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่าความเสี่ยงด้านอันตรายจากโควิทสำหรับผู้ที่อายุน้อยนั้นต่ำกว่าช่วงอายุอื่น อีกทั้งผู้ที่เสียชีวิตส่วนใหญ่มักมีโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับเบาหวาน ความดันโลหิต หรือโรคหัวใจ ดังนั้นก่อนการพิจารณาเข้าร่วมโครงการ น้องๆควรสำรวจตัวเองว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงนั้นหรือไม่ โดยทางโครงการได้มีการทำประกันเพื่อรักษาพยาบาลกรณีสุขภาพซึ่งคุ้มครองโรคโควิทไว้แล้วด้วยเช่นกัน และที่สำคัญที่สุดคือความสำเร็จของวัคซีนที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นหากพิจารณาข้อเท็จจริงแล้วจะพบว่าความเสี่ยงด้านอันตรายจากโควิทสำหรับผู้ที่อายุน้อยนั้นอยู่ในระดับต่ำ ความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายอันที่จริงช่วงนี้ถือเป็นนาทีทองสำหรับผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ เนื่องจากราคาค่าโครงการได้ปรับลงจากภาวะตลาดที่เกิดขึ้น […]
อ่านต่อ
Blogs
Biden ชนะเลือกตั้ง ส่งผลอย่างไรต่อ J-1 Work and Travel?
บทวิเคราะห์ โดย Acadex อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า สหรัฐกำลังจะเปลี่ยนผ่านสู่ประธานาธิบดีคนใหม่ซึ่งมาจากพรรคเดโมแครต ดังนั้นเราจะไปวิเคราะห์ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับโครงการ Work and Travel กัน ด้านนโยบายเป็นที่ทราบกันดีว่านโยบายของพรรคเดโมแครตนั้น มีการสนับสนุนการเปิดรับชาวต่างชาติและ immigration มากกว่าพรรคริพับลิกันของทรัมป์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ Biden เคยเป็นรองประธานาธิบดีของโอบาม่า ก็มีแนวโน้มที่จะสานต่อนโยบายด้านต่างประเทศในอดีตให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง และหนึ่งในนโยบายหลักของการสานสัมพันธ์ระหว่างประเทศของพรรคเดโมแครตก็คือ การสนับสนุนโครงการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศสหรัฐนั่นเอง ย้อนกลับไปยุคโอบาม่า-Biden ก็ได้มีการส่งสารอย่างต่อเนื่องจากฮิลารี่ คลินตัน (ซึ่งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศในขณะนั้น) ในการสนับสนุนโครงการแลกเปลี่ยน J-1 ทุกประเภท การขอวีซ่าสำหรับผู้ที่ติดตามข่าวโครงการ Work and Travel จะทราบว่าหลังจากทรัมป์เข้ารับตำแหน่งนั้น มีเสียงบ่นออกมาเป็นระยะๆ ว่า ขอวีซ่ายากขึ้น แม้ว่าสัดส่วนคนที่ผ่านวีซ่าสำหรับโครงการนี้จะยังอยู่ในอัตราที่สูงมากๆก็ตาม ทั้งนี้จากข้อมูลการอนุมัติวีซ่า J-1 ทั่วโลก 5 ปีย้อนหลังจะพบว่า มีการอนุมัติวีซ่าที่อยู่ในอัตราแนวโน้มสูงขึ้น ดังนั้นจึงเชื่อว่าแนวโน้มจะยังเป็นผลดีมากสำหรับโครงการ ด้านการปิดประเทศจาก Covid-19ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิดมานั้น สหรัฐเป็นประเทศที่เปิดน่านฟ้าอย่างต่อเนื่อง และอนุญาตให้ผู้คนสามารถเดินทางเข้าออกได้อย่างเสรี (ตราบใดที่มีวีซ่าถูกต้อง)ซึ่งหนึ่งในนโยบายหาเสียงที่สำคัญของ Biden คือการควบคุมสถานการณ์โควิด ซึ่งถูกกล่าวหาเป็นอย่างหนักว่า Bidenจะปิดประเทศ และจะกระทบต่อการเดินทางในทุกระดับ อย่างไรก็ตาม Biden […]
อ่านต่อ